top of page
ค้นหา

ตู้อบฟิล์มหด ระบบลมร้อน vs ระบบอินฟราเรด: เลือกระบบที่เหมาะสมกับธุรกิจคุณ

ree

การห่อฟิล์มหด (Shrink Wrapping) เป็นกระบวนการสำคัญในอุตสาหกรรมการผลิตและบรรจุภัณฑ์ เพราะช่วยให้สินค้ารัดตัวด้วยฟิล์มพลาสติก เพิ่มความแข็งแรง ป้องกันฝุ่น ความชื้น และลดความเสียหายระหว่างขนส่ง การเลือก ตู้อบฟิล์มหด ที่เหมาะสมไม่เพียงแต่ช่วยให้งานหดเรียบร้อยเท่านั้น แต่ยังช่วยประหยัดเวลา ลดของเสีย และเพิ่มประสิทธิภาพสายการผลิต

ปัจจุบันมี ตู้อบฟิล์มหดสเตนเลส หลายรูปแบบให้เลือก โดยเฉพาะ ระบบลมร้อน (Hot Air) และ ระบบอินฟราเรด (Infrared) ทั้งสองระบบมีข้อดีและข้อจำกัดต่างกัน ผู้ประกอบการควรทำความเข้าใจอย่างละเอียดก่อนลงทุน

บทความนี้จะเจาะลึกเปรียบเทียบทั้งสองระบบ พร้อมแนะนำวิธีเลือกเครื่องจักรและการใช้งานจริงในโรงงานอุตสาหกรรม


หลักการทำงานของตู้อบฟิล์มหดแต่ละระบบ


ระบบลมร้อนใช้พัดลมหมุนเวียนลมร้อนภายในช่องอบ ความร้อนถูกกระจายทั่วพื้นที่ ทำให้ฟิล์มหดรัดตัวรอบสินค้าอย่างสม่ำเสมอ

คุณสมบัติเด่นของระบบลมร้อน:

  1. ฟิล์มหดทั่วทุกด้าน: ลดปัญหารอยบิดและฟองอากาศ

  2. ปรับอุณหภูมิและความเร็วลมได้: รองรับฟิล์มหลายชนิด เช่น PVC, POF, PET

  3. เหมาะกับสินค้ารูปร่างซับซ้อน: กล่องหลายเหลี่ยม ขวดทรงแปลก สินค้าที่ซ้อนหลายชั้น

  4. รองรับการผลิตต่อเนื่อง: ใช้งานหลายชั่วโมงโดยเครื่องไม่เสียหายง่าย


ระบบอินฟราเรด (Infrared Shrink Tunnel)

ระบบอินฟราเรดใช้หลอดอินฟราเรดส่งความร้อนตรงไปยังฟิล์ม ทำให้ฟิล์มหดตัวเร็ว เหมาะกับสายการผลิตที่ต้องการความเร็ว

ข้อดี:

  • หดฟิล์มเร็ว

  • ขนาดเครื่องกะทัดรัด

  • ประหยัดพื้นที่โรงงาน

ข้อจำกัด:

  • ความร้อนไม่กระจายทั่วสินค้า

  • ฟิล์มหดอาจไม่สม่ำเสมอ โดยเฉพาะสินค้ารูปร่างซับซ้อน

  • หลอมหลอดต้องเปลี่ยนตามรอบการใช้งาน


ความสม่ำเสมอของงานหดฟิล์ม

ระบบลมร้อน:

  • พัดลมหมุนเวียนทำให้ความร้อนกระจายทั่วทุกด้านของชิ้นงาน

  • ฟิล์มหดเรียบเนียน ไม่มีรอยบิดหรือฟองอากาศ

  • เหมาะกับสินค้าทุกขนาด ทั้งเล็กและใหญ่

ระบบอินฟราเรด:

  • ความร้อนไม่สม่ำเสมอในบางมุม

  • หากสินค้ามีหลายชั้นหรือหลายมิติ อาจหดไม่เท่ากัน


ความเร็วในการอบฟิล์ม

  • ลมร้อน: ใช้เวลาอบฟิล์มมากกว่า แต่แลกกับคุณภาพงานหดที่สูงและสม่ำเสมอ

  • อินฟราเรด: หดเร็ว เหมาะกับสายการผลิตที่เน้นปริมาณ แต่ต้องระวังคุณภาพงานหดไม่เท่ากัน


การใช้พลังงานและประสิทธิภาพ

  • ลมร้อน: ใช้พลังงานสูงกว่าอินฟราเรด แต่คุ้มค่าเพราะลดของเสียและเพิ่มคุณภาพงานหด

  • อินฟราเรด: ประหยัดพลังงาน เหมาะกับโรงงานขนาดเล็ก แต่คุณภาพงานหดไม่สม่ำเสมอ


ความเหมาะสมของสินค้าและรูปทรง

  • ลมร้อน: เหมาะกับสินค้าหลากหลายรูปทรง ขนาด และชั้น

  • อินฟราเรด: เหมาะกับสินค้ารูปทรงเรียบง่าย เช่น กล่องสี่เหลี่ยม ขวดทรงกระบอก


ความทนทานและการบำรุงรักษา

  • ลมร้อน:

    • ตู้อบทำจากสเตนเลสคุณภาพสูง แข็งแรง ทนต่อการใช้งานต่อเนื่อง

    • ดูแลรักษาง่าย ทำความสะอาดสะดวก

  • อินฟราเรด:

    • หลอมหลอดต้องเปลี่ยนบ่อย

    • อายุการใช้งานเครื่องโดยรวมสั้นกว่า


การเลือกฟิล์มสำหรับแต่ละระบบ

  • ลมร้อน: รองรับ PVC, POF, PET, ฟิล์มบางและหนา

  • อินฟราเรด: เหมาะกับฟิล์มบาง เพราะความร้อนสูงสามารถหดฟิล์มเร็ว

ข้อแนะนำ:

  • ฟิล์มบางมาก อาจเกิดการเผาไหม้หรือรอยไหม้บนอินฟราเรด

  • ฟิล์มหนา อบด้วยลมร้อนจะสม่ำเสมอและรัดแน่น


เทคนิคการใช้งานเพื่อคุณภาพสูง

  1. ปรับอุณหภูมิและความเร็ว: ลมร้อนควรปรับอุณหภูมิให้เหมาะสมกับชนิดฟิล์มและขนาดสินค้า

  2. การจัดวางสินค้า: วางชิ้นงานห่างกันพอสมควร เพื่อให้ลมร้อนหมุนเวียนทั่วสินค้า

  3. ตรวจสอบฟิล์มก่อนอบ: ฟิล์มไม่ชำรุด หรือมีฝุ่นละออง

  4. ควบคุมความชื้น: หลีกเลี่ยงการอบฟิล์มในสภาพอากาศชื้นจัด


ตารางเปรียบเทียบระบบลมร้อน vs อินฟราเรด

รายการ

ระบบลมร้อน (Hot Air)

ระบบอินฟราเรด (Infrared)

ความสม่ำเสมอ

ฟิล์มหดทั่วชิ้นงาน เรียบเนียน

เน้นจุดที่โดนแสง อาจไม่สม่ำเสมอ

ความเร็ว

ใช้เวลามากกว่าเล็กน้อย แต่คุณภาพสูง

หดเร็ว แต่คุณภาพไม่สม่ำเสมอ

การใช้พลังงาน

สูง แต่คุ้มค่าสำหรับงานคุณภาพ

ต่ำกว่า ประหยัดพลังงาน

ความเหมาะสมสินค้า

รูปร่างซับซ้อน ขนาดหลากหลาย

ทรงเรียบง่าย ขนาดไม่ซับซ้อน

ความทนทาน

แข็งแรง ใช้งานต่อเนื่องหลายชั่วโมง

ต้องเปลี่ยนหลอดตามรอบ

การบำรุงรักษา

ง่าย ทำความสะอาดสะดวก

ต้องดูแลหลอดและอุปกรณ์

การประยุกต์ใช้งานในอุตสาหกรรม

  1. อาหารและเครื่องดื่ม: ห่อกล่องน้ำผลไม้ ขวดน้ำดื่ม

  2. สินค้าอุตสาหกรรม: อุปกรณ์เครื่องใช้ ไฟฟ้า ขวดน้ำมันหล่อลื่น

  3. สินค้าเคมีและเวชภัณฑ์: ขวดยา กล่องเวชภัณฑ์

เคล็ดลับ: การใช้ระบบลมร้อนช่วยให้ฟิล์มหดสวยงามทุกด้าน เหมาะกับสินค้าที่มีหลายชั้นหรือหลายมิติ


การเลือกตู้อบฟิล์มหดที่เหมาะสมกับธุรกิจ

  1. สินค้ารูปร่างซับซ้อน: ลมร้อนเหนือกว่า

  2. สายการผลิตต่อเนื่อง: ลมร้อนคงทนกว่า

  3. ความต้องการคุณภาพสูง: ลมร้อนสม่ำเสมอ

  4. งบประมาณจำกัด หรือโรงงานขนาดเล็ก: อินฟราเรดเหมาะสำหรับงานเรียบง่าย


Thaipat Machine ช่วยให้สินค้าห่อฟิล์มเรียบร้อย สวยงาม พร้อมส่งถึงมือลูกค้า


การเลือก ตู้อบฟิล์มหด ต้องพิจารณารูปร่างสินค้า ปริมาณการผลิต ความเร็วในการอบ และงบประมาณ ระบบลมร้อน เหมาะกับสินค้ารูปร่างซับซ้อน สายการผลิตต่อเนื่อง และงานที่ต้องการคุณภาพสูง ส่วน ระบบอินฟราเรด เหมาะกับสินค้าทรงเรียบง่าย โรงงานขนาดเล็ก หรือพื้นที่จำกัด

Thaipat Machine ให้บริการตู้อบฟิล์มหดสเตนเลสคุณภาพสูง พร้อมบริการหลังการขายที่วางใจได้ เพื่อให้ธุรกิจมั่นใจได้ทั้งคุณภาพและความคงทน


📞 ติดต่อทีมงาน Thaipat Machine ได้เลยวันนี้ เพื่อรับคำปรึกษาและใบเสนอราคาพิเศษ

3 พระราม 2 ซอย 32, ถนนพระราม 2, แขวงบางมด, เขตจอมทอง, กรุงเทพมหานคร 10150

โทร: (+66) 081 869-3873,

อีเมล์: info@thaipatmach.com

ไลน์ ไอดี: 0968925525


ตู้อบฟิล์มหดคุณภาพสูงขนาดเล็ก ST100 (SUS)
THB 0.00
ซื้อเลย
ตู้อบฟิล์มหดคุณภาพสูง ST150 (SUS)
THB 0.00
ซื้อเลย

 
 
 

ความคิดเห็น


  • linelogo
  • YouTube
bottom of page